แบบฝึกหัดท้ายบทที่9
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
1.นักศึกษาคิดว่าเหตุใดจึงต้องนำเอาระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในการทำงาน
ตอบ. เพื่อช่วยให้การทำงานมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น
การนำเอาคอมพิวเตอร์เข้ามาเชื่อมต่อกันเป็นเครือ
ข่ายจึงทำให้การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันทำได้ง่ายมากขึ้น
ผู้ใช้งานในระบบเครือข่ายสามารถ ติดต่อถึงกันได้ทันที
ลดข้อจำกัดเรื่องของเวลาและสถานที่ลงไปได้
2.ระบบเครือข่ายมีข้อดี
ข้อเสียอย่างไรบ้าง จงยกตัวอย่างประกอบ
ตอบ. ข้อดีคือ สามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ร่วมกันได้เช่น
เครื่องพิมพ์หรือพื้นที่ในฮาร์ดดิสก์
นอกจากนั้นไฟล์ข้อมูลที่จำเป็นก็สามารถเรียกใช้งานได้จากหลายๆ
เครื่องหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันก็ทำได้โดยง่าย ข้อเสียของระบบเครือข่ายอาจเกิดปัญหาได้เช่นกัน
เช่น เรียกใช้ข้อมูลไดช้าเพราะ ข้อ
จำกัดของสายของเครือข่ายที่ทำได้ช้ากว่าสายต่อภายในเครื่อง และยากต่อการควบคุมดูแล
เพราะมีผู้ใช้งานหลายคนร่วมกัน ข้อมูลอาจไม่สามารถใช้งานได้ทันที
หากผู้ใดผู้หนึ่งเรียกใช้ข้อมูล อยู่เป็นต้น
3.สายเคเบิลที่ได้รับความนิยมอย่างแพรหลายมากที่สุดคือสายชนิดใด
จงบอกถึงลักษณะโดยทั่วไปของสายดังกล่าว
ตอบ. สายแบบ
UTP หรือแบบไม่มีฉนวนหุ้ม
ได้รับความนิยมมากที่สุดเพราะมีราคาถูก และติดตั้งได้ง่าย
เป็นสายขนาดเล็กคล้ายสายโทรศัพท์มี 8 เส้น ตีเกลียวกันเป็นคู่ๆ
เพื่อลดสัญญานรบกวน การเดิน- สายต้องจากเครื่องเข้าหาอุปกรณ์รวมสายหรือ HUB
เท่านั้น
4.จงอธิบายวิธีการทำงานแบบ
CSMA/CD ที่ใช้ในระบบเครือข่าย มาพอเข้าใจ
ตอบ. วิธี การนี้คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องจะคอย "ฟัง"
ว่าสายว่างหรือไม่ ถ้าพบว่าสายว่างก็จะเริ่มส่งสัญ-
ญาณออกมาซึ่งถ้าสายว่างจริงข้อมูลก็จะส่งไปถึงผู้รับได้เลย
แต่การเริ่มส่งสัญญาณนี้อาจเกิดขึ้น จากหลาย ๆ สถานีฟร้อมกันได้ เพราะต่างคนต่าง
"ฟัง" และเข้าใจว่าสายว่างพร้อมกันผลก็คือสัญ-ญาณที่จะได้จะชนกันในสาย
ทำให้ข้อมูลใช้ไม่ได้ ดังนั้นเครื่องแต่ละเครื่องจึงต้องสามารถตรวจจับการชนกันของข้อมูลได้ด้วย
เมื่อเครื่องที่ส่งข้อมูลออกมาชนกัน ก็ให้หยุดส่งและรอโดยนับถอยหลัง ตามเวลาที่สุ่มขึ้นมาซึ่งจะแตกต่างกันระหว่างแต่ละเครื่อง
แล้วค่อยส่งข้อมูลออกมาใหม่
5.จงสรุปความหมายของ Server
และ Client มาพอเข้าใจ
ตอบ. - Server
คือเครื่องแม่ข่ายที่ทำหน้าที่ให้บริการข้อมูลสำหรับ เครื่องอื่น ๆ ที่อยู่ในเครือข่ายมักมีหน้าที่และชื่อที่เรียกแตกต่างกันแล้วแต่การให้ บริการ เช่น Mail server,File server,Web server Pint server,Database server เป็นต้น
- Client
คือเครื่องแม่ข่ายที่ทำหน้าที่ให้บริการข้อมูลสำหรับ เครื่องอื่น ๆ ที่อยู่ในเครือข่ายมักมีหน้าที่และชื่อที่เรียกแตกต่างกันแล้วแต่การให้ บริการ เช่น Mail server,File server,Web server Pint server,Database server เป็นต้น
- Client
คือเครื่องลูกข่ายที่อยู่ในระบบ
มีหน้าที่ร้องขอหรือเรียกใช้บริการจากเครื่องแม่ข่ายเมื่อทำงานหรือขอข้อมูลบางอย่างนั้นเอง
6.HUB คืออะไร
เอามาใช้ประโยชน์ได้อย่างไรกับระบบเครือข่าย
ตอบ. ตัวรวมสายซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นมากในการต่อ LAN โดยสามารถโยบย้ายสาย สลับเครื่องหรือ เพิ่มจำนานเครื่องได้
เนื่องจากสายทั่งหมดจากทุกเครื่องจะลากมารวมอยู่ที่เดียวกันหมด โดยเรา
อาจทำเป็นตู้หรือห้องเพื่อไว้เก็บสายด้วยก็ได้
อาจมีจำนวนพอร์ตเพื่อใช้สำหรับต่อสายต่างกันได้ในแต่ละตัวเช่น 5,8,10,16,24
พอร์ตหรือมากกว่านั้นเป็นต้น
7.จงยกตัวอย่างมาตรฐานของ
Ethernet ความเร็วสูงพร้อมทั้งอธิบายมาพอเข้าใจ
ตอบ. มาตรฐานของ Ethernet
ความเร็วสูง มีดังต่อไปนี้
- 1000Base-T
เป็นระบบที่พัฒนาต่อจาก Ethernet โดยใช้สายที่ดีขึ้นกว่าเดิมคือสาย UTP แบบ Category5
หรือดีกว่า การต่อนั้นใช้ HUB ที่ทำมาให้รองรับความเร็ว 100 Mbps ด้วยเท่านั้น
- Gigabit Ethernet
หรือเรียกกันเป็น 1000 Base-T (สาย UTP) หรือ 1000 Base-F (สาย Fiberoptic)สามารถ
ส่งข้อมูลได้ในระดับความเร็ว 1000 Mbps หรือ 1 Gbps เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความ
เร็วสูงมาก เช่น งานกราฟฟิก หรือใช้เชื่อมต่อตรงช่วงที่เข้าเครื่องเซิร์ฟเวอร์เพื่อสามารถรอง
รับงานจากเครื่องอื่นได้มากพร้อมกัน
- 10 Gigabit Ethernet
เป็นเทคโนโลยีที่สามารถรับส่งข้อมูลได้เร็วกว่าแบบอื่น ๆ คือทำได้ถึง 10000 Mbps หรือ
10 Gbps นิยมใช้สำหรับเชื่อมต่อกับหน่วยงานขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกันระหว่างเมืองหรือ
WAN เป็นต้น
- 1000Base-T
เป็นระบบที่พัฒนาต่อจาก Ethernet โดยใช้สายที่ดีขึ้นกว่าเดิมคือสาย UTP แบบ Category5
หรือดีกว่า การต่อนั้นใช้ HUB ที่ทำมาให้รองรับความเร็ว 100 Mbps ด้วยเท่านั้น
- Gigabit Ethernet
หรือเรียกกันเป็น 1000 Base-T (สาย UTP) หรือ 1000 Base-F (สาย Fiberoptic)สามารถ
ส่งข้อมูลได้ในระดับความเร็ว 1000 Mbps หรือ 1 Gbps เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความ
เร็วสูงมาก เช่น งานกราฟฟิก หรือใช้เชื่อมต่อตรงช่วงที่เข้าเครื่องเซิร์ฟเวอร์เพื่อสามารถรอง
รับงานจากเครื่องอื่นได้มากพร้อมกัน
- 10 Gigabit Ethernet
เป็นเทคโนโลยีที่สามารถรับส่งข้อมูลได้เร็วกว่าแบบอื่น ๆ คือทำได้ถึง 10000 Mbps หรือ
10 Gbps นิยมใช้สำหรับเชื่อมต่อกับหน่วยงานขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกันระหว่างเมืองหรือ
WAN เป็นต้น
8. จงบอกลักษณะโดยทั่วไปของสายโคแอกเชี่ยล
ตอบ. สายเส้นเดี่ยวแบบที่มีเปลือกเป็นสายโลหะถัก (Shield) เพื่อป้องกันคลื่นรบกวน
โดยมักใช้กับเครือ
ข่ายแบบ Ethernet ดั้งเดิมซึ่งสามารถใช้ต่อเชื่อมระหว่างแต่ละเครื่องโดยตรงในลักษณะที่ไม่ต้อง
มีอุปกรณ์รวมสายเข้ามาช่วย ปัจจุบันเริ่มใช้กันน้อยลงเพราะถูกทดแทนด้วยสาสยแบบอื่นที่มีราคา
ถูกและทำความเร็วได้ดีกว่า
ข่ายแบบ Ethernet ดั้งเดิมซึ่งสามารถใช้ต่อเชื่อมระหว่างแต่ละเครื่องโดยตรงในลักษณะที่ไม่ต้อง
มีอุปกรณ์รวมสายเข้ามาช่วย ปัจจุบันเริ่มใช้กันน้อยลงเพราะถูกทดแทนด้วยสาสยแบบอื่นที่มีราคา
ถูกและทำความเร็วได้ดีกว่า
9.จงบอกถึงหน้าที่หลักของอุปกรณ์
Route
ตอบ. Router จะทำงานเสมือนเป็นเครื่องหรือ
node หนึ่งใน LAN ที่รับข้อมูลเข้ามาแล้วส่งต่อไปยังปลาย
ทางที่ต้องการ หน้าที่หลักของ Router คือหาเส้นทางที่ดีที่สุดในการส่งต่อข้อมูลต่อไปยังเครือข่าย
อื่นซึ่งอาจใช้สื่อสัญญาณหลายแบบแตกต่างกันได้ โดยมีการแปลงหรือจัดรูปแบบข้อมูลตามแบบ
ทางที่ต้องการ หน้าที่หลักของ Router คือหาเส้นทางที่ดีที่สุดในการส่งต่อข้อมูลต่อไปยังเครือข่าย
อื่นซึ่งอาจใช้สื่อสัญญาณหลายแบบแตกต่างกันได้ โดยมีการแปลงหรือจัดรูปแบบข้อมูลตามแบบ
สรุปท้ายบทที่
9 ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
เครือ
ข่ายคอมพิวเตอร์เป็นการนำคอมพิวเตอร์หลายๆเครื่องมาเชื่อมต่อเข้าไว้ด้วยกัน
เพื่อสามารถทำงานแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสาร ร่วมถึงการใช้ทรัพยากรบางอย่างร่วมกัน
แต่มีข้อจำกัดบางประการคือ การใช้ข้อมูลทำได้ซ้ำ
ไม่สามารถใช้ได้ทันทีและยากในการควบคุมดูแลในกรณี ระบบเครือข่ายโดยทั่วไป
อาจแบ่งได้กว้างๆเป็น 2 ลักษณะคือ LAN และ WAN องค์ประกอบของเครือข่ายประกอบด้วย
อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์
และตัวกลางนำข้อมูล ซึ่งเป็นได้ตั้งแต่สายเคเบิลชนิดต่างๆ เช่น สาย Coaxial
, สาย UTP, คลื่นวิทยา Fiber Optic เป็นต้น
เครือข่ายแบบไร้สาย
คือเครือข่ายที่อาศัยคลื่นวิทยุในการรับส่งข้อมูล
ซึ่งมีประโยชน์ซึ่งไม่ต้องเดินสายเหมือน LAN แบบอื่น
เหมาะกับการใช้งานในบ้านหรือซึ่งที่ไม่สะดวกเดินสาย แต่จะทำความเร็วได้ต่ำกว่าแบบใช้สายหลายเท่า
การจัดแบ่งหน้าที่ในการทำงานของคอมพิวเตอร์ในเครือข่าย
มี 2 แบบใหญ่ๆคือ Peer
– to – Peer ซึ่งทุกเครื่องจะมีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน และแบบ Server – based ซึ่งมีบางเครื่องทำหน้าที่เป็นเซิร์ฟเวอร์หรือผู้ให้บริการแก่เครื่องอื่นหรือที่เรียกว่า
ไคลเอนต์
อ้างอิง
: จากหนังสือเรียนความรู้เบื่องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น